เตือนประชาชนพื้นที่หมู่ 2 บ้านหนองหูช้างตำบลเกาะหลัก เมืองประจวบ ระวังฝนตกถนนลื่น เหตุน้ำฝนไหลท่วมขังพื้นผิวจราจรจนถนนเป็นตะไคร่น้ำ
แนะขับรถช้าๆ และรถใหญ่ควรหลีกทางให้รถเล็ก
หลายวันที่ผ่านมานี้สภาพภูมิอากาศของประเทศไทยเราเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก
โดยทั่วภูมิภาคในประเทศไทยของเราก็ได้รับผลกระทบในเรื่องของพายุฝนในหลากหลายพื้นที่ ล่าสุดว่าที่ร้อยตรีอาทิตย์
เปรี้ยวหวาน เจ้าหน้าที่เวชกรฉุกเฉิน มูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถานและนักสื่อสารกู้ชีพประจำจังหวัดประจวบคิรีขันธ์สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
(สพฉ.) ได้ลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบสภาพถนนเพื่อป้องกันอุบัติในพื้นที่
ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่าถนนบริเวณนี้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
โดยน้ำที่ที่ไหลบ่ามาจากเทือกเขาตะนาวศรี ได้ไหลเข้าท่วมหลากหลายพื้นที่ของตำบลเกาะหลักอย่างต่อเนื่องจนทำให้ถนนหลายสายที่ชาวบ้านต้องใช้ในการสัญจรได้รับผลกระทบ
ว่าที่ร้อยตรีอาทิตย์กล่าวว่า
จากการลงสำรวจพื้นที่ของตนนั้น พบเห็นถนนหลายสายที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
โดยเฉพาะถนนในพื้นที่หมู่ที่ 2บ้านหนองหูช้าง ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรงบริเวณถนนจากสี่แยกประจวบฯมุ่งหน้าฝั่งตะวันตกที่จะมุ่งหน้าบ้านหนองเสือ
เข้าสี่แยกประจวบฯประมาณ 300 ม. ซอยร่วมพัฒนา
ซอยแรกขวามือที่จะเชื่อมกับหมู่บ้านหนองพังพวย
เส้นทางนี้มีน้ำท่วมขังและไหลบนช่องทางจราจรเป็นจำนวนมาก ตนได้ทำการสอบถามจากชาวบ้านซึ่งชาวบ้านได้สะท้อนว่า
ไม่เคยมีน้ำท่วมเอ่อล้นข้ามถนนมากแบบนี้มาก่อน เมื่อปี2556
ก็มีท่วมลักษณะเช่นนี้เหมือนกัน กว่าน้ำจะลดหรือยุบจะใช้ระยะประมาณ 1-2สัปดาห์
พื้นผิวถนนก็จะจับเป็นตะไคร่ ทำให้ช่วงเช้า
ไม่ว่านักเรียนหรือผู้ที่เดินทางไปทำงานที่ใช้รถจักรยานยนต์
มีความเสี่ยงในการใช้ถนน เพราะลื่นล้ม ดังที่เคยเกิดมาก่อน
เจ้าหน้าที่เวชกรฉุกเฉิน
มูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถานและนักสื่อสารกู้ชีพประจำจังหวัดประจวบคิรีขันธ์สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
(สพฉ.) กล่าวว่า ภายหลังจากที่ชาวบ้านสะท้อนปัญหาให้ฟังนั้นตนได้โทรไปสอบถามยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เพื่อให้รับทราบปัญหาและเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหา
ซึ่งทางองค์กรปกครองส่วนท้องที่ได้รับทราบปัญหาและลงมาตรวจสอบสภาพพื้นผิวถนนแล้วและรับปากว่าหากน้ำลดลงแล้วจะรีบทำการแก้ไขปัญหาทันที
ส่วนประชาชนที่จะสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวนี้จะต้องขับรถด้วยความระมัดระวังเพราะถนนลื่นจากตะไคร่น้ำมาก
หากประชาชนท่านใดที่ขับขี่รถยนต์ขนาดใหญ่ควรชะลอความเร็วให้รถมอเตอร์ไซค์ที่สวนทางมาได้วิ่งไปก่อนด้วย
เพราะแรงกระเพื่อจำน้ำจะกระเด็นไปถูกผู้ขับมอเตอร์ไซค์และแรงจากคลื่นของน้ำอาจทำให้รถมอเตอร์ไซด์ล้มจนเกิดอุบัติเหตุได้
อยากให้ทุกคนที่จะใช้รถใช้ถนนบนเส้นทางนี้มีน้ำใจต่อกันให้มากด้วย
/////////////////////////////
ภาพและข่าวโดยว่าที่ร้อยตรีอาทิตย์ เปรี้ยวหวาน
เจ้าหน้าที่เวชกรฉุกเฉิน มูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถานและนักสื่อสารกู้ชีพประจำภาคกลางสพฉ. | วันที่ 12/11/2557 |